25 ธ.ค.63 นายสมชาย
พหุลรัตน์ ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Thai Sangsan Institute ได้เผยว่าสถาบันฯได้ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์
2 คณะ โดยมี ศ.ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัต ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาสถาบันฯและผู้ร่วมก่อตั้งสร้างสรรค์ปารตี้,
พร้อมด้วยนักวิชาการหลากหลายสาขา อาทิ
อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร
(ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต) ,อ.เภสัชกร
ดร.อธิวัฒน์ สินรัชตานันท์ (นักวิชาการด้านสุขภาพ-ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสมุนไพร),ดร.สุรชัย เลี่ยมทอง(นักธุรกิจ-เจ้าของเอจจิ้งเซ็นเตอร์)
คุณพัชรีภรณ์ สิงห์พัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร),อ.ดร.แสวง
วิทยพิทักษ์(อาจารย์สอนป.เอกม.ราชภัฎจอมบึง),อ.ดนัย หริพัฒน์กุล
(อาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย), คุณดิษชูภณ
นัยเนตร(คณะทำงานการเมืองภาคประชาชน),คุณอิศรานนท์ สิทธาพิสุทธิ์กุล (ที่ปรึกษาบ.ส่งออกผลไม้-คอลัมนิสต์),นายธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
(อาจารย์พิเศษ-คอลัมนิสต์) ฯลฯ
ร่วมกันประชุมเรื่องแนวทางการรับมือกับโควิดครั้งใหม่
ในส่วนของภาคประชาชน มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย
นักวิชาการ-นักธุรกิจ-คนรุ่นใหม่-และอดีตข้าราชการ ซึ่งมีความคิดเห็นที่สรุปออกมาได้ประเด็น
คือ ควรที่จะมีการตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ที่มีโรงงานและแรงงานต่างด้าวอยู่อาศัยทั่วประเทศไปทีเดียวเลยเพราะจะได้หยุดโควิดระบาดให้ได้เร็วที่สุด
ซึ่งในที่ประชุมยังมี อ.ซาร่า หรือศศิวิมล จิตบันเทิงพันธ์
(อาจารย์ด้านภาษาจีน-และอดีตนักเรียนทุนรัฐบาลจีน)มาพูดให้ฟังถึงสถานการณ์ตอนที่เธออยู่ที่ในปักกิ่ง
และตอนนั้นมีการระบาดโควิดในตลาดซินฟาตี้ และรัฐบาลจีนใช้เวลา 7 วันเอาอยู่โควิดได้เบ็ดเสร็จ มาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่ตลาดกุ้ง
สมุทรสาคร เกิดเป็นต้นต่อของการระบาดครั้งใหม่มาเป็นข้อมูลด้วย
ขณะเดียวกันในส่วนภาคประชาชนของสถาบันฯก็จะร่วมรณรงค์ในเครือข่ายไปสู่สาธารณะให้ช่วยกันเป็นจิตอาสาเฝ้าระวังดูในชุมชนของตัวเองและแจ้งเบาะแสบุคคลที่สุ่มเสี่ยงติดโควิดให้กับภาครัฐ
โดยต่อยอดมาจากโครงการฯพลังกาย พลังใจ ต้านภัยไวรัส” ที่ได้ร่วมรณรงค์สู้กับภัยโควิด
19 ในช่วงต้นที่ผมเองเป็นประธานฯจัดกิจกรรมและมีProf.อิน นฤหล้า (นักวิชาการนานาชาติ),Prof.ปีแอร์เดอลาลองด์ และProf.สก็อตบัดเล่ย์
ร่วมกันจัดกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ ต้านภัยโควิดในช่วงแรก
ทางด้าน ศ.ดร.มณีรัตน์ ฯ และ อ.นิดาวรรณ
กล่าวว่ารอบใหม่นี้ถ้าฟังข้อมูลจากแพทย์หลากหลายท่านก็จะบอกตรงกันว่าจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกดังนั้นเราต้องช่วยกันทุกภาคส่วน
ซึ่งในวันนี้เราก็มีคนรุ่นใหม่ที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเอแบค
มาร่วมมือรณรงค์ไปพร้อมกับสถาบันฯก็คือ น.ส.วัณพรรณ เพียรล้ำพงศ์ (วิทยากรข่าว), น.ส.สุพรรษา
หม่า, น.ส.ศิวาพร
พุ่มทิน
และยังมีทนายความและอดีตข้าราชการเช่น
พ.ต.ท.สุคนธ์ กุลธาโร, คุณนนท์ ทะสะรา, คุณเสกสรร มากผล, คุณประเสริฐ เอียดสุวรรณ,ผศ.ดร.ชิษณุพงศ์ รัตนพันธ์,คุณเอกราช
นิสชัยสงฆ์, คุณเสนีย์ รัตนเจริญ (อดีตผบ.เรือนจำ) และกลุ่มชมรมคนด้ามขวานและเพื่อนปทุมธานี
มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย
นายสมชาย พหุลรัตน์ หรือ “Mr.P” ประธานสถาบันฯกล่าวอีกว่าอีกภาระกิจหนึ่งของสถาบันฯคือการตั้งคณะกรรมการทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การคัดกรองบุคคลมาทำงานโดยที่มี
ศ.ดร.มณีรัตน์ สวัสติวัติ ณ
อยุธยา
เป็นประธานฯและมีคณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมกันขับเคลื่อน
อาทิ พ.ต.ภรัณ กิติวัฒน์,(อดีตที่ปรึกษารมต.อุตสาหกรรม)
คุณยศพงศ์ นาทันรับ(นักธุรกิจ), คุณพัชรียาภรณ์ สิงห์พัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร).คุณจิรโรจน์ มาลัยทองทิพย์
(นักธุรกิจ),คุณณัฐนันท์
พงษ์ภูริพัฒน์(อดีตผอ.กระทรวงทรัพยากรฯ),คุณธนกร ธรรมวรัญจน์,คุณเกียรติพงษ์ พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ)คุณชาติชาย สอนอินทรชิต, คุณสุรณรงค์ แจ่มจันทร์
และคุณปรีชา ธนาไพรินทร์ฯลฯ
และยังมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆที่จะมาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ
นอกจากโครงการอบรมคนรุ่นใหม่ทางการเมืองแล้วยังมีการจัดเวทีทางวิชาการในช่วงปีหน้าปี
64 ซึ่งจะขยายเครือข่ายออกไปยังท้องถิ่นซึ่งมีทีมงานด้านนี้มารับผิดชอบทุกภาคในการขับเคลื่อน
โดยมีเป้าหมายรวมพลังกันมาร่วมกันทำงานความดีเพื่อแผ่นดิน