วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

อาเซียนแชมป์ผู้ต้องขังหญิงล้นคุก นักวิชาการจี้ใช้กระบวนการบำบัดฟื้นฟูก่อนส่งผู้ต้องขังคืนสู่สังคม


งานวิจัยเผยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราผู้ต้องขังหญิงสูงสุดในโลก คดียาเสพติดครองแชมป์กว่า 80% เหตุเกี่ยวข้องปัญหาสังคม ความยากจน ความรุนแรงในครอบครัว ด้านนักวิชาการหนุนใช้ยุติธรรมทางเลือก สร้างกรอบการบำบัดฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ หวังสร้างชีวิตหลังพ้นโทษอย่างมีคุณภาพ
ลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ

ร็อบ อัลเลน นักวิจัยอิสระเปิดเผยถึงผลวิจัยเรื่องการส่งต่อผู้ต้องขังหญิงคืนสู่สังคม (Social reintegration) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลาว พม่า สิงคโปร์ และไทย มีอัตราการจำคุกในเพศหญิงต่อจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมดมากที่สุดในโลก คิดเป็น 10% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด โดย 4 ใน 5 ของการกระทำผิดของผู้ต้องขังหญิงในไทยและอินโดนีเซียมีมูลเหตุของการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด

เมื่อพิจารณาถึงคดียาเสพติดของผู้ต้องขังหญิง พบว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้ต้องขังหญิงข้องเกี่ยวกับยาเสพติดมาจากปัญหาความยากจน และต้องการหารายได้มาจุนเจือครอบครัว โดยผู้ต้องขังหญิงในคดียาเสพติดมักจะถูกบังคับ หรือ ถูกทำร้ายร่างกาย ให้เป็นผู้ค้ายาหรือส่งต่อ ซึ่งผู้ต้องขังหญิงที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มีความเสี่ยงสูงในการกระทำผิดซ้ำ ส่วนการครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพเป็นปัจจัยรองลงมา ซึ่งเหตุจูงใจที่ทำให้ผู้หญิงใช้ยาเสพติด มาจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว  

 อัลเลน กล่าวเสริมว่า การแก้ไขปัญหานักโทษล้นเรือนจำนั้น จำเป็นต้องมองปัญหา และกระบวนการยุติธรรมทางอาญาทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นตอจนถึงแนวทางแก้ปัญหา ไม่เพียงแค่การศึกษาเหตุจูงใจในการกระทำผิด การบำบัดฟื้นฟูเพื่อคืนผู้ต้องหญิงคืนสู่สังคม แต่ยังควรคำนึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังพ้นโทษอย่างมีคุณภาพ การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่อการส่งกลับสู่ครอบครัว นอกจากนี้ รัฐบาล และภาคประชาสังคมควรมีบทบาทในการสนับสนุนชีวิตหลังพ้นโทษอย่างมีคุณภาพอย่างจริงจัง ทั้งการสนับสนุนทางการเงินหรือกลไกความร่วมมือในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ

 

บำบัด-ฟื้นฟู ลดทำผิดซ้ำ

มิวเรียล จอร์แดน เอธวินยอน เจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาแห่ง UNODC  กล่าวว่า กระบวนการบำบัดฟื้นฟูก่อนส่งคืนผู้ต้องขังสู่สังคมเป็นขั้นตอนที่มีข้อผูกพันกับกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ ทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ
สิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีด้านสิทธิมนุษยชน ข้อกำหนดเนลสันเเมนเดลลา (Mandela Rules) ซึ่งเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง รวมถึงข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ซึ่งเป็นข้อกำหนดของสหประชาชาติว่าการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง

 กฎกติการะหว่างประเทศทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายเพื่อการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำและมุ่งสร้างความปลอดภัยต่อสาธารณะ ปัจจุบันงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า กระบวนการบำบัดฟื้นฟูก่อนส่งคืนผู้ต้องขังหญิงสู่สังคมผ่านการให้การศึกษา การฝึกอบรมอาชีพ และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยลดอัตราการกระทำผิดซ้ำได้ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ต้องขังหญิงที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงถึง 50% นับตั้งแต่ปี 2543

 ทั้งนี้ ขั้นตอนการส่งคืนผู้ต้องขังสู่สังคมจำเป็นต้องกระทำตั้งแต่ก่อนพ้นโทษไปจนถึงพ้นโทษไปแล้ว เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดของเหตุจูงใจการกระทำผิดซ้ำตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางของปัญหา เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ปัญหายาเสพติด ความยากลำบากในการหาที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพ หลังพ้นโทษ

 

สำรวจความก้าวหน้า “การลดการกระทำผิดซ้ำ” ในโบลิเวีย-อินโดฯ

มิวเรียล กล่าวว่า เพื่อเป็นการลดอัตรากระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษ ในโบลิเวียมีการอบรมให้ความรู้ด้านการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูงอย่างอุตสาหกรรมก่อสร้าง และยังมีรายได้สูงกว่ารายได้ขั้นต่ำถึง 25% โดยมองว่า การอบรมเป็นการเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพ ทำให้มีความมั่นคงทางการเงิน และทำให้กลับไปสู่ชีวิตปกติอย่างยั่งยืน ไม่กระทำผิดซ้ำอีก

นอกจากนี้ ในโบลีเวียเอง ยังมีความร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการก่อสร้างหญิง ช่วยสนับสนุนและให้โอกาสในการทำงาน ไปจนถึงการก่อร่างสร้างกิจการของตัวเอง

ไอชยา ยูลีอานี เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการความยุติธรรมอาญา UNODC กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาก่อนพ้นโทษ ผู้ต้องขังหญิงของอินโดนีเซียจะได้การสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษ เช่น การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต การบำบัดการติดบุหรี่ การได้รับโอกาสในการพบเจอสมาชิกในครอบครัว

ขณะเดียวกัน อินโดนีเซียมีความก้าวหน้าด้านกฎหมายเช่นกัน โดยมีการตรากฎหมายที่ระบุให้ครอบครัวที่พบสมาชิกในครอบครัวมีอาการติดยาเสพติดต้องมีการรายงานต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งกฎหมายนี้มีส่วนช่วยในการให้ครอบครัวเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้รับการยอมรับและกลับมาสู่สังคมและครอบครัวได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

อัตราการทำผิดซ้ำผู้ต้องขังหญิงไทยสูง

ชลธิช ชื่นอุระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมข้อกำหนดกรุงเทพและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยหรือ TIJ กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์พบว่า ประเทศไทยมีนักโทษจำนวนประมาณ 380,000 ราย เป็นผู้ต้องขังหญิงราว 48,000 ราย คิดเป็น 12.6% มีอายุเฉลี่ยที่ 34 ปี ส่วนใหญ่ได้รับโทษจำคุก 2-5 ปี (44%) ตามด้วย 5-10 ปี (18%) และ 20-50 ปี (10%) นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้กระทำผิดมีมูลเหตุจากคดียาเสพติดคิดเป็น 83% ตามด้วยคดีลักทรัพย์ 10.3% และคดีประทุษร้ายทำร้ายร่างกาย 1.4%

ในแง่ของการศึกษา ผู้ต้องขังหญิงถึง 2 ใน 3 ได้รับการศึกษาต่ำกว่าระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และ 80% ของผู้ต้องขังอยู่ในสถานะ “แม่”

 

อัตราการกระทำผิดซ้ำมีสูงถึง 34% ในกลุ่มผู้ต้องขังหญิงที่พ้นโทษไปแล้ว  3 ปี ตามด้วยผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้ว 2 ปี (26%) และผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้ว 1 ปี (14.5%) ซึ่งอัตราการกระทำผิดซ้ำนั้นมีสาเหตุหลัก
2 ประการ ได้แก่ 1. ขาดการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อันเนื่องมาจากปัญหานักโทษล้นคุก 2. ปัญหาที่ประสบหลังพ้นโทษ เช่น การถูกตีตราจากสังคม ความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ ปัญหาว่างงาน ครอบครัวแตกแยก และปัญหาที่อยู่อาศัย

สำหรับประเทศไทย มีความพยายามในการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำหลากหลายวิธี ตัวอย่างเช่น การจัดให้มีโปรแกรมบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังหญิงก่อนส่งคืนสู่สังคม การจัดตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ หรือ ศูนย์ CARE โดยกรมราชทัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังให้มีงานทำ สอดคล้องกับภูมิหลังหรือวิถีชีวิตจริงนอกเรือนจำท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ เมื่อต้นปี รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนการจ้างงานผู้ต้องขังหลังพ้นโทษของภาคธุรกิจและกิจการเพื่อสังคมผ่านมาตรการภาษี

 

ขณะเดียวกัน TIJ ยังได้ส่งเสริมรูปแบบความร่วมมือในรูปแบบภาคีพันธมิตรทางสังคม (Social partnership model) โดยสร้างความร่วมมือจากพันธมิตรทางสังคม 9 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญภายนอก นักบำบัดวิทยา ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างสุขภาพใจ การจัดการการเงิน การพัฒนาอาชีพ การวางแผนธุรกิจ การหวนคืนสู่ครอบครัว และความช่วยเหลือหลังพ้นโทษ เป็นต้น ซึ่งโครงการ
นำร่องดังกล่าว ได้ทดลองใช้แล้วที่เรือนจำกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยให้การอบรมแก่ผู้ต้องขังหญิงจำนวน 34 ราย เป็นเวลาทั้งสิ้น 250 ชั่วโมง ในระยะเวลา 3 เดือนก่อนพ้นโทษ

นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการติดตามความคืบหน้าคุณภาพชีวิตหลังพ้นโทษ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะไม่กระทำผิดซ้ำอีก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กระบวนการบำบัดฟื้นฟูและคืนผู้ต้องขังคืนสู่สังคมชะงัก เนื่องจากข้อจำกัดในการติดต่อกับครอบครัวและบุตรของผู้ต้องขัง ขณะเดียวกัน มีปัจจัยเรื่องความกังวล และความเครียดเข้ามาเกี่ยวข้อง กระบวนการให้ความรู้ การฝึกอาชีพต้องยกเลิกกลางครัน ทำให้ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในแง่ของคุณภาพชีวิตหลังพ้นโทษของผู้ต้องขังได้

 

 

 

 

 


วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เหรียญ“หลวงพ่อพัฒน์” รุ่น “นวภัทร์พันล้าน”พิธีเข้มขลัง คนลูกทุ่ง การันตีของดี.. ร่วมบุญสร้าง“ศาลาวัดทรงธรรม”


หลวงพ่อพัฒน์ รุ่นนวภัทร์พันล้าน  ได้จัดสร้างโดยวัดทรงธรรม มีปลัดใหม่พิจิตร เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเพื่อจัดหารายได้ ในการสมทบทุนสร้างศาลาวัดทรงธรรม อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และศาลา 100 ปีบารมีหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จังหวัดนครสวรรค์

 โดยมีคนในวงการเพลงลูกทุ่ง ศิลปินดารา และผู้จัดการ ให้ความชื่นชมในความสวยงามของเหรียญรุ่นนี้ และการันตีด้วยพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ ณ วัดทรงธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพัฒน์เป็นเกจิอาจารย์ที่สืบสานตำนาน มีดหมอหลวงพ่อเดิม และวิชาอาคมเกจิอาจารย์สายนครสวรรค์

    

ในการนี้ ยังได้รับความเมตตายิ่งจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย เมตตาอนุเคราะห์อาจารย์บล็อก และอธิษฐานจิตแผ่นชนวนมวลสาร พร้อมทั้งยังมีแผ่นชนวนมวลสารจากเกจิอาจารย์ชื่อดังระดับประเทศ อาทิ เช่น ท่านเจ้าคุณมีชัย วัดหงส์รัตนาราม หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน และหลวงพ่อทรงธรรม วัดทรงธรรม

  

จึงเรียกได้ว่าวัตถุมงคลรุ่นนี้ เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ได้รับความเมตตาตั้งแต่ระดับพระผู้ใหญ่ระดับชาติ บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศหลายท่านให้ความสนใจ อาทิ ศรเพชร ศรสุพรรณ ยิ่งยง ยอดบัวงาม หนึ่ง จักรวาร นอกจากนี้ท่านที่ได้บูชา ยังได้รับบุญในการสมทบทุนสร้างศาลาถึง 2 วัด คือวัดทรงธรรม และวัดห้วยด้วน

นักสะสม ผู้นิยมพระเครื่อง และท่านที่สนใจติดต่อได้ที่ วัดทรงธรรม อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เพจ Facebook นวภัทร์พันล้าน หรือโทร 096 1495 424 ของดีมีมงคล มีจำนวนจำกัด บอกได้คำเดียว

888 มีเดียฯ โดย บก.ตุ่น อินเตอร์ และ แต เมืองเหนือ ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน






วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ “ผู้นำรุ่นใหม่ทางการเมืองประกาศร่วมมือสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ สร้างทีมยุทธศาสตร์รับมือกับยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มที่”



สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์
“ผู้นำรุ่นใหม่ทางการเมืองประกาศร่วมมือสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ สร้างทีมยุทธศาสตร์รับมือกับยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มที่”



สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ระดมนักวิชาการระดับนานาชาติแถลงเปิดอบรมโครงการYoung Politic Leadership (ผู้นำเยาวชนการเมืองรุ่นใหม่)ผนึกเครือข่ายการเมืองและสตรีนักกฎหมาย-นักธุรกิจ พร้อมมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติด หวังสร้างปรากฏการณ์ให้คนรุ่นใหม่ทำความดีเพื่อแผ่นดิน รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อเขามีโอกาสเข้าสู่การเมืองก็จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ และต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ 3 องค์กรเครือข่ายเตรียมประกาศวางแผนร่วมมือกับการเมืองภาคท้องถิ่น พัฒนาโครงการไปสู่การตั้งพรรคการเมือง

วันที่18 ก.ค. ที่ ร.ร.แกรนด์เมอร์เคียว กรุงเทพฟอร์จูน 
นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ พร้อมด้วย ศ.ดร.มณีรัตน์  สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา , ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์,พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้”, อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร  ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต, อ.เภสัชกรอธิวัฒน์ สินรัชตานันท์,(นักวิชาการด้านสุขภาพ), นายสุเทพ  เข้มแข็งปรีชานนท์ (เครือข่ายทางด้านการเมือง) พร้อมนักวิชาการระดับนานาชาติด้านLeadership นำโดย อ.อิน  นฤหล้า (อดีตคณะบดีคณะบริหารธุรกิจเอแบค) อ.ปีแอร์ เดอลาลองด์, อ.สก็อต  บัดเล่ย์ และดร.สุรชัย เลี่ยมทอง นักวิชาการด้านAnti Aging พร้อมทีมนักวิชาการทางการเมืองภาคประชาชนและท้องถิ่น นำโดยนายดิษชูภณ นัยเนตร, ผอ.ณัฐนันท์ พงษ์ภูริพัฒน์(อดีตผอ.กรมทรัพยากรฯ) ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดตัวโครงการอบรมYoung  Politic Leadership ผู้นำเยาวชนการเมืองรุ่นใหม่ อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยจะอบรมรุ่นแรกในช่วงเดือน-ตุลาคม ศกนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดในประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยระดมนักวิชาการทุกด้านมาให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ที่เข้าอบรมทั้งหมด หวังให้มีตัวแทนผู้นำเยาวชนการเมืองรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เพื่อรวมพลังคนรุ่นใหม่ รวมใจตอบแทนคุณแผ่นดิน  เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ซึ่งทางโครงการฯได้เตรียมวิทยากรที่มีความรู้หลากหลายสาขาอาชีพ มาทำการฝึกอบรมซึ่งตอนนี้นักธุรกิจและภาคเอกชนเตรียมส่งผู้นำในองค์กรมาร่วมอบรมไปพร้อมกัน ตามสโลแกนของสถาบันคือ “สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย เพื่อให้คนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าจับมือเดินหน้าทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและบ้านเมือง”




 ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวว่า”ทางสถาบันได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการหลากหลายด้าน อย่างท่านศ.ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ท่านพึ่งได้รับรางวัลจากสหประชาชาติด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ก็จะนำความรู้ประสบการณ์ในเวทีระดับโลกมาถ่ายทอดให้ผู้นำเยาวชนการเมืองรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับ ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์  นักวิชาการด้านศาสนาในฐานะนายกสมาคมสหพันธ์ศาสนกิจฯ ท่านก็จะเน้นความรู้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของชาวโลกทุกชาติทุกศาสนา ในส่วนทางด้านกฎหมาย-เทคโนโลยี่-เยาวชน-สตรี อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ม.รังสิต)ได้ระดมนักกฎหมายปริญญาเอกหลายสถาบันมาร่วมกันเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ทางกฎหมายใหม่ ๆ ร่วมทั้งอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี่ พ.ต.อ.สุรโชค“สารวัตรแรมโบ้”ในฐานะประธานมูลนิธิฯและยังเป็นรองประธานโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรเขาค้อ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ(ที่มี พล.อ.พิจิตร กุลละวาณิชย์ อดีตองคมนตรีเป็นประธานฯ)จะนำผู้นำรุ่นใหม่ไปดูงานทางด้านโครงการฯพระราชดำริ  และโครงการฯทางด้านเกษตรอินทรีย์ด้วยนอกจากนั้นแล้ว”สารวัตรแรมโบ้” จะนำเอาประสบการณ์ความรู้ของการทำงานด้านการปราบปรามและงานด้านสืบสวนสอบสวนมาถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และรับมือกับอาชญากรรมในยุคเทคโนโลยี่ไปพร้อมกัน  ในส่วนของด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อ.สุพัฒก์  ชุมช่วย นักวิชาการอิสระผู้เขียนหนังสือทศพิธราชธรรม ก็จะมาบรรยายทางด้านภาวะผู้นำแบบทศพิธราชธรรมตลอดจนการเมืองแบบธรรมาธิปไตยที่จะถ่ายทอดภาวะผู้นำที่มีคุณธรรมไปพร้อมกับ ทีมฝึกอบรมLeadershipระดับนานาชาติที่อบรมองค์กรข้ามชาติมาแล้วหลายองค์กรไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ หรือบริษัทฯใหญ่ๆ ของอีเกีย

“นอกจากนั้นแล้วในส่วนของนักธุรกิจทางสถาบันเครือข่ายสร้างสรรค์ไทยก็มีนักบริหารระดับซีอีโอทางการเงิน-การคลังมารวมเป็นวิทยากร รวมทั้งนักธุรกิจหญิงอีกหลายท่านเช่น รศ.(พิเศษ)ดร.สุชานี –รศ.พิเศษ น.อ.มโนธร แสงสุวรรณ,นักธุรกิจด้านกีฬา(ประธานสถาบันอบรมศิลปะมวยไทยฯ ค่าย ว.สาครฤทธิ์) ดร.เมย์ริสสรา  จันทรรัตน์  เจ้าของธุรกิจแบรนด์ไทย, คุณวีรฤทัย   มณีนุชเนตร นักธุรกิจ-และนักกฎหมาย ,คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์  ประธานบริษัทไทย-พัชรีฟูดส์ จำกัด, คุณวัลลภ ใหญ่ยิ่ง  ประธานบ.เอชอาร์ดี่ไอฯลฯ และอีกมากมายหลายท่านที่อยู่ในภาคธุรกิจ  ต่างมาร่วมแรงรวมใจที่จะมาเป็นวิทยากรถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ที่เขาอบรม”ซึ่งยังไม่รวมถึงคนวงการกีฬาอย่าง ดร.แสวง วิทยพิทักษ์  ประธาน ก.ก.ควบคุมผู้ตัดสินไทยไฟ้ท์ และ อ.ดนัย  หริพัฒน์กุล จากสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย”

นายสมชายฯ ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวในตอนท้ายว่า”โครงการนี้ฯยังมีนักวิชาการจิตอาสาอีกมากมายที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนในการสร้างผู้นำ หรือการสร้างภาวะผู้นำเยาวชนทางการเมืองรุ่นใหม่ให้มีวิสัยทัศน์ที่รักชาติ รักบ้านเมือง เราจะออกไปอบรมทุกภาคโดยผู้เข้ารับการอบรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เราจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการทางด้านการเมือง และท้องถิ่นเพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุน้อย ๆ ให้เกิดทุกตำบล-อำเภอ-ทุกภาค เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ เรายังมีนักวิจัย-นักวิทยาศาสตร์ที่จะมาให้ความรู้และส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นนักวิจัย-นักวิทยาศาสตร์ เพื่อมาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งในส่วนนี้เรามีเครือข่ายการเมือง อย่างนายสุเทพ  เข้มแข้งปรีชานนท์  ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่มารวมพลังกันทำงานโดยมีสมาชิกเครือข่ายพลังสตรีของสถาบันฯที่พร้อมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทางด้านต่าง ๆของสถาบันลงพื้นที่ไปอบรมกันทุกภาค ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะมี 3 องค์กรภาคสังคม-ประชาชน จับมือกันเพื่อพัฒนาก้าวไปสู่การจัดตั้งพรรคการเมืองต่อไป โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังพี่น้องคนไทย รวมใจตอบแทนคุณแผ่นดิน



สำหรับผุ้นำเยาวชนทางการเมืองรุ่นใหม่ที่มาร่วมแถลงข่าววันนี้ประกอบด้วย คุณพุฒิธร  จันทรมณี “น้องยีน”,คุณวรรณิศา มณีนพรัตน์  เจ้าของแบรนด์และดีไซน์เน่อร์The ninety story ที่ไอคอนสยาม ,คุณธีธนา  พหุลรัตน์ “มิสเตอร์โด่ง”ผู้บริหาร-นักธุรกิจสุขภาพ, คุณภารินี  เจษฎาเดช (customer account specialist),ชนากานต์ จินาเพ็ญ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ก.ก.ผจก.บ.ไลก้าบิวดิ้งฯ, ,คุณศิริภาคย์ ชินโชติ” น้องบูม” นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์(เทคโนโลยี่พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง)ฯลฯ รวมทั้งยังมีคนรุ่นใหม่ในธุรกิจสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอี-ท่องเที่ยวธุรกิจด้านกีฬาฯลฯ อีกจำนวนมากที่สมัครเข้ามาแล้วที่เตรียมพร้อมจะเข้าอบรมในช่วงเดือนตุลาคม นี้ โดยคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้เขาประกาศเลยว่าจะร่วมกันเป็นคนต้นแบบของคนรุ่นใหม่ที่ มีจิตสำนักสาธารณะต่อสังคมอย่างสูงและตั้งยุทธศาสตร์และเครือข่ายคนรุ่นใหม่ในยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะลงพื้นที่ทั่วประเทศไปพร้อมกับวิทยากรของโครงการฯ โดยใช้ทีมงานโซเชี่ยลมิเดียของสถาบันฯเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและรับรู้กันอย่างเต็มที่ไปพร้อมกันในการฝึกอบรม เพื่อให้สะดวกและเข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายโดยผ่านช่องทางFace Book,ไลน์ อินสตาร์แกม,เวปไซด์อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนั้นเรายังเป็นสถาบันฯยังมีรายการทีวี 4 รายการและรายการวิทยุอีก 2 รายการที่จะเป็นช่องทางสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ มีนักวิชาการแต่ละด้านมาจัดวางแผนยุทธศาสตร์ไว้ทุกด้าน ทั้งสังคม  เศรษฐกิจ การเมือง  ซึ่งจะทำให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศได้สื่อสารกันได้สะดวก ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวในตอนท้ายว่า”การสร้างคนรุ่นใหม่ทางการเมืองครั้งนี้เราไม่ได้คำนึงแต่คนอายุน้อยๆเท่านั้น แต่เรายังให้ความสำคัญของคนทุกวัยทุกระดับไม่ว่าคน ๆนั้นจะอยู่ในอาชีพอะไร เหมือนที่สถาบันของเรามีคณะกรรมการทุกสาขาอาชีพ  เรายังให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเราจะเรียกกลุ่มนี้ว่า” ผู้เชี่ยวชาญชีวิต”ซึ่งเราเคยมีกิจกรรมร่วมกับคนกลุ่มนี้มาแล้วและปัจจุบันเรามีบุคลากรทางด้านสาธารณสุขหลายท่าน อาทิ อ.เภสัชกรอธิวัฒน์ สินรัชานันท์  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสมุนไพรและผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งแพทย์ทางเลือก ก็มาร่วมวางแผนยุทธศาสตร์ในการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ เพื่อให้คนสูงอายุนั้นมีความมั่นคงและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง


          

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“ทราย ณัฐชญา” ศิลปินหมอขวัญนักแหล่สาวสวย หันมาลุยลูกทุ่งอินดี้ ซิงเกิ้ล “หายกัน”


เป็นกระแสฮือฮาเมื่อหมอทำขวัญ นักแหล่สาวสวย “ทราย ณัฐชญา” หันมาเอาดีและเปลี่ยนสไตล์เพลงเป็นลูกทุ่งอินดี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยึดงานทำขวัญนาคมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และประสบความสําเร็จจนเป็นที่รู้จักของเจ้าภาพ และมีงานเข้ามามากมายอย่างต่อเนื่อง และมาระยะหลัง ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแนวมาร้องเพลงแนวลูกทุ่ง จนได้มีโอกาสเจอกับ ดร.ใบเตย บอสใหญ่ค่าย ช่อฟ้าเรคคอร์ด จึงชักชวนให้มาทำเพลงสไตล์อินดี้ ศิลปินสาวสวยนักแหล่ “ทราย ณัฐชญา” จึงไม่รีรอเข้ามาสังกัดค่าย “ช่อฟ้า เรคคอร์ด” ทันที

 และทางต้นสังกัดจึงคัดเพลงดี ส่งเพลง “หายกัน” ผลงานการประพันธ์ของ “ฝ้ายฮัก ภูจำปา” มาให้ “ทราย ณัฐชญา” ร้อง และเรียบเรียงเสียงประสานโดย “สมพงศ์ สมรักษ์”


 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ และท้าทายความสามารถไม่น้อย สำหรับศิลปินสาวที่เดินทางบนถนนสายหมอขวัญและนักแหล่ กับการฉีกแนวร้องเพลงแนวลูกทุ่งอินดี้ แฟนๆเพลงของ “ทราย ณัฐชญา” สามารถติดตามฟังซิงเกิ้ล “หายกัน” ได้ทาง YouTube พิมพ์ชื่อ “หายกัน - ทราย ณัฐชญา” หรือคลิ๊ก https://www.youtube.com/watch?v=vpJiGSlDw0U&feature=share


ส่วนเจ้าภาพงานบุญงานบวช และงานคอนเสิร์ต สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ โทร.084-5680925 บ.888 มีเดียฯ ของ บก.ตุ่น อินเตอร์ ผู้ดูแลประชาสัมพันธ์



วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ (Thai Sang San) “สรรสร้างไทย อนาคตไทย” เปิดโครงการ “Young Politic Leadership”


เครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ผนึกภาคสังคม-นักธุรกิจรุ่นใหม่-สตาร์ทอัพ-ดีไซน์เนอร์-ท่องเที่ยว พร้อมเครือข่ายการเมือง-นักวิชาการด้านกฎหมาย และสุขภาพ เปิดตัว โครงการ “Young Politic Leadership”ผู้นำรุ่นใหม่ทางการเมืองทุกสาขาอาชีพ สร้างสรรค์คนรุ่นใหม่เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมในทุกสาขาอาชีพเพื่อร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน  วางแผนสร้างเครือข่ายภาวะผู้นำรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยทีมProject Leadership ระดับโลกที่เคยอบรมเจ้าหน้าที่ระดับสหประชาชาติและอีเกียมาแล้วร่วมลงพื้นที่ทุกภาคพร้อมวิทยากรเครือข่าย

 

นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวถึงงานเปิดโครงการสร้างคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำในหลายสาขาอาชีพ ให้ร่วมกันทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ  เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมด้วยการขับเคลื่อนฝึกอบรม โดยทีมโปรเจ็คลีดเดอร์ชิป(Project Leadership)ระดับโลก ที่นำโดยอาจารย์อิน  นฤหล้า  นักธุรกิจและนักวิชาการนานาชาติ อดีตคณบดีบริหารธุรกิจเอแบคและทีมอาจารย์ภาวะผู้นำจากต่างประเทศ อย่าง อ.ปีแอร์ เดอลาลองด์ และ อ.สก็อต  แบดเล่ย์ ฯลฯ และมีตัวแทนของภาคสังคม-นักธุรกิจรุ่นใหม่-สตาร์ทอัพ-ดีไซน์เนอร์-ท่องเที่ยว พร้อมเครือข่ายการเมือง-นักวิชาการด้านกฎหมายและนักวิชาการด้านสุขภาพ อันประกอบด้วยนักวิชาการระดับศาสตราจารย์ ศ.ดร.มณีรัตน์  สวัสดิวัฒน์ ณ อยุธยา(นักวิชาการด้านการศึกษาที่แปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษฉบับแรกของโลก), ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์  นายกสมาคาสหพันธ์ศาสนกิจฯ, อาจารย์สุพัฒก์  ชุมช่วย  นักวิชาการอิสระผู้เขียนหนังสือทศพิธราชธรรม ซึ่งทุกท่านในส่วนนี้จะเป็นทีมนักวิชาการที่จะมาสร้างภาวะผู้นำให้กับคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพไหนเพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้ปลูกฝังความรักชาติบ้านเมือง ของ 3 เสาหลักของประเทศ นั้นก็คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยหลังจากนั้นเปิดตัวโครงการฯแล้วก็จะเปิดอบรบรุ่นแรก ในช่วงไม่เกินเดือนตุลาคมศกนี้หลังจากผ่านพ้นพรก.ฉุกเฉินและสถานการณ์โควิดในประเทศกลับมาปกติแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อสะดวกในการจัดกิจกรรมและฝึกอบรม

 

นอกจากนั้นแล้วเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ยังได้ผนึกกำลังกับนักวิชาการด้านกฎหมายรุ่นใหม่(ระดับปริญญาเอก)ทั้งหมด นำโดย อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต(ในฐานะคณะยุทธศาสตร์ทางด้านกฎหมาย-เทคโนโลยี –สตรีและเยาวชน) นายปัญญา  สุทธา (ทนายความ),อ.จตุพล  เจริญรื่น (อ.นิติ ราชภัฏบ้านสมเด็จ) อ.เนติ ปิ่นมณี(นิติ ม.นวมินทร์ ฯลฯและนักกฎหมายมหาชนรุ่นใหม่อีกหลายมหาวิทยาลัย ผนวกกับเครือข่ายมูลนิธิต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติด โดย พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช( สารวัตรแรมโบ้คนดัง)นายตำรวจประจำตัว พล.เอกพิจิตร กุลละวณิชย์ อดีตองคมนตรี และยังเป็นรองประธานบ.อุตสาหกรรมการเกษตรเขาค้อ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(ซึ่งมีพลเอกพิจิตรฯเป็นประธานโครงการฯ) พร้อมเครือข่ายทางด้านการเมือง ซึ่งมีนายสุเทพ  เข้มแข้งปรีชานนท์  นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคที่ตระเวนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่หลายจังหวัด, นายดิษชูภณ นัยเนตร (ทีมนักวิชาการการเมืองภาคประชาชน) มาร่วมกันสรรค์สร้างเยาวชนให้เป็นคนดีทางการเมือง”

 

นายสมชาย  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของนักวิชาการด้านสุขภาพ มีอ.เภสัชกรอธิวัฒน์  สินรัชตานันท์  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสมุนไพรและผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งแพทย์ทางเลือก(คณะทำงานยุทธศาสตร์ทางด้านสาธารสุขและแพทย์ทางเลือก-สมุนไพรพื้นบ้านไทย) และ อาจารย์สอนแพทย์ อ.ดร.สุรชัย เลี่ยมทอง  นักวิชาการด้าน Mesoterpay and Anti Aging พร้อมเครือข่ายสมาชิกแพทย์ทางเลือกที่มารวมตัวกันในเครือไทยสร้างสรรค์อีกจำนวนมาก นอกจากผู้คนในแวดวงสังคมบุคคลที่มีชื่อเสียงที่จะช่วยกันขับเคลื่อนสร้างเยาวชนให้คนเป็นคนดีในสังคมอีกหลายท่าน อาทิ รศ.(พิเศษ)สุชานี  แสงสุวรรณ และรศ.(พิเศษ)น.อ.มโนธร  แสงสุวรรณ  ประธานสถาบันอบรมศิลปะมวยไทยค่ายมวย(ว.สาครฤทธิ์) ดร.แสวง วิทยพิทักษ์  ประธานกรรมการควบคุมผู้ตัดสินไทยไฟท์, อ.ดนัย  หริพัฒน์กุล กรรมการสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย

 

อ.ดร.สุรชัย  เลี่ยมทอง นักวิชาการด้าน Anti-Aging กล่าวว่าตนเองในฐานะคณะกรรมการยุทธศาตร์ทางด้านสุขภาพจะเน้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้วางแผนการดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยไปจนถึงเรื่องของสังคมผู้สูงอายุตลอดจนเรื่องการสร้างภาวะผู้นำทางด้านสุขภาพ ซึ่งในส่วนนี้ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ท่านมีความรู้และปฏิบัติตนที่เป็นแบบอย่างของสังคมผู้สูงอายุที่ลดอายุหรือชะลอวัยได้เป็นอย่างดี


 นายสุเทพ  เข้มแข็งปรีชานนท์ ในฐานะยุทธศาสตร์ทางด้านการเมือง กล่าวว่า ตนเองก็จะนำเอาความรู้ทางด้านการเมือง ที่มีประสบการณ์มานานพอสมควรมาถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ที่จะเป็น Young politic Leadership นั้น จะได้มีการเตรียมตัวหรือเตรียมพร้อมอย่างไรเมื่อวันหนึ่งก็ตัดสินใจมาทำงานด้านการเมือง ซึ่งด้านนี้ทราบว่าประธานเครือข่ายมีผู้หลักผู้ใหญ่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์นี้อีกหลายท่านมาร่วมเป็นวิทยากรเราจะแบ่งกันทำงาน ผมลงพื้นที่สร้างเครือข่ายชุมชนทีมประธานเครือข่ายลงพื้นที่สร้างผู้นำในท้องถิ่นทั่วประเทศ

 

พ.ต.อ.สุรโชค  เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ในฐานะรองประธานโครงการพระราชดำริ(เขาค้อ)และประธานมูลนิธิฯก็จะช่วยนำเอาความรู้ประสบการณ์การทำงานมาถ่ายทอดให้เยาวชนได้เรียนรู้ถึงปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมในรูปแบบใหม่ ๆที่มากับยุคเทคโนโลยี ซึ่งทางประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ท่านมีทีมงานเทคโนโลยีและบุคลากรคนรุ่นใหม่มาช่วยอย่างเต็มที่ซึ่งจะทำงานขับเคลื่อนไปพร้อมกัน นอกจากนั้นส่วนของเกษตรอินทรีย์เราก็จะพาเยาวชนผู้นำไปดูงานโครงการพระราชดำริที่เขาค้อ และการสาธิตการเพาะปลูกพืชพรรณผลไม้ที่ใช้ปุ๋ยชีวภาพและเกษตรอินทรีย์ทั้งหมดเรียกว่าลงพื้นที่ชมของจริงโครงการฯพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และต่อเนื่องถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ 10

 ท้ายสุด ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ กล่าวว่าโครงการฯนี้ ต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้รวมพลังกันในการจะร่วมกันทำความดีและตอบแทนคุณแผ่นดินกันแต่ยังเป็นเยาวชนและเมื่อเขามีอายุมากขึ้นจะทำให้เขา    เป็น ผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพซึ่งเป็นโครงการฯที่ผสมผสานทั้งเยาวชนและคนรุ่นใหม่ทุกสาขาอาชีพ ซึ่งจะเปิดตัวโครงการฯในวันที่ 18 กรกฎาคม ศกนี้ เวลา 14.30น. ณ  โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวบางกอก(ฟอร์จูน)พร้อมคนรุ่นใหม่หลากหลายสาขาอาชีพทั้งนักธุรกิจ-สตาร์ทอัพ-ดีไซนเนอร์-ธุรกิจท่องเที่ยว-แพทย์ทางเลือกรุ่นใหม่และคนรุ่นใหม่ในวงการกีฬาไปพร้อมกันกับสโลแกนที่ว่า “สรรสร้างไทย อนาคตไทย”

 โดยในวัน เสาร์​ที่ 18 ก.ค.นี้​ นายสมชาย​ พหุ​ล​รัตน์​ ประธาน​สถาบัน​เครือ​ข่า​ยไทย​สร้างสรรค์​ร่วมกับนายสุเทพ​ เข้มแข็ง​ปรีชา​นนท์​ หัวหน้า​พรรค​พลัง​ไทย​รัก​ชาติ, พ.ต.อ.สุร​โชค​ เจษฎา​เดช(สารวัตร​แรมโบ้)​ประธาน​มูลนิธิ​ต่อต้านป้องกันอาชญากรรม​และ​ยาเสพติด​และเครือข่าย​นักกฎหมายระดับ​ปริญญา​เอก​ อ.นิดาวรรณ​ เพราะสุนทร​  ผอ.หลักสูตร​นิติ​ฯ ม.รังสิต ​ร่วมกันเปิดตัวโครงการYoung  politic  Leadership ณ โรงแรมแกรนด์​ เ​มอ​ร์​เคียว​ ฟอร์จูน เวลา ​14.30 ​น.​ โดยมี ศ.ดร.มณีรัตน์​ สวัสดิ​วัต​น์​ ณ​ อยุธยา​ และ​ ศ.ดร.สุรพล บุญ​ป​ระ​ถัมภ์​ คณะที่ปรึกษา​ร่วมแถลงข่าว


วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“เกอวเบอรี่” SK.Records คิวฮอตต่อเนื่อง “นายห้างธงชัย พุ่มฤทธิ์”พาเดินสายออกสื่อ



ศิลปินเสียงดี “เกอวเบอรี่”สังกัด SK.Records จัดเป็นนักร้องที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนในปี 2563 นี้  คือเพลง คิดจะรักอย่าชักช้า / น้ำท่วมพ่ายน้ำใจ/  เอาเลยพ่อใหญ่ /  เอาหินหนุน  และล่าสุด “คนเริ่มมีความรัก 2020”

 

เรียกได้ว่า นายห้างธงชัย กฤษดา พุ่มฤทธิ์”ค่ายเพลง SK.Records กล้าสวนกระแสเศรษฐกิจ ออกเพลงให้ “เกอวเบอรี่”ชนิดที่ทุ่มสุดตัวจริงๆ อีกทั้งคิวงานแน่นทุกวัน เพราะนักร้องคุณภาพแบบนี้ถือว่าเหมือนเหล็กที่กำลังร้อน ต้องรีบตีให้เข้ารูปเข้าร่าง ซึ่งทุกครั้งที่ “เกอวเบอรี่”ออกซิงเกิ้ลมา ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า จะต้องมีการเดินสายเยี่ยมเยือนสถานีวิทยุและรายการโทรทัศน์ตลอดเวลา

 

ล่าสุดนี้ ก็เดินสายออกรายการต่างๆมากมาย ได้แก่ รายการ “คุยกับ TOPของดีเจ.คนดัง “ท็อป ศราวุธ”ทางช่อง PSI 66 / สถานีคลื่นลูกทุ่งมหานคร FM.95 อสมท.ช่วงเวลาจ่อคิวฮิต / คลื่นหมีน่ารัก HugRadio / คลื่นลูกทุ่งแม็กซาโก้ / รายการ"ดาราวาไรตี้ทีวีบันเทิง"สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม IPM ช่อง Beauty Club HD กดหมายเลข 48 ฯลฯ และยังมีอีกหลายที่จองคิวกันเข้ามาให้ “เกอวเบอรี่”ไปออกรายการ

 สำหรับใครที่ต้องการติดต่องานแสดง หรือสัมภาษณ์ “เกอวเบอรี่”โทรได้ที่ 063-296-4656 และติดตามผลงานได้ที่ทาง YouTube Channel : เอสเค เรคคอร์ด ( SK Records) / แฟนเพจเฟสบุ๊ค :  เอสเค เรคคอร์ด( SK Records)






วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ศิลปินน้องใหม่“ฟ้า ขวัญนคร” ครบรสทั้งสวยและเสียงดี.. ดึง“สิตางค์ ส้มหยุด”คู่“โรเบิร์ด สายควัน”เล่น MV“เด็กปั้ม”



ศิลปินสาวใต้วัย 18 ที่น่าจับตามอง “ฟ้า ขวัญนคร”หรือ “ณริสสา ดำเนินผล” ด้วยความสามารถด้านการร้องเพลงที่เหลือล้น และหน้าตาดี เกินนักร้องลูกทุ่ง เหมือนดารา ทำให้ค่าย “ไผ่ร้อยกอ โปรดักชั่น” ของเซียนพระชื่อดัง “พยัพ คำพันธุ์”นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ตัดสินใจ รับเข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด

 

“ฟ้า ขวัญนคร”เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่นชอบและร้องมาตั้งแต่เด็ก ทั้งเพลงลูกทุ่ง และเพลงเพื่อชีวิต ก่อนที่จะได้มาอยู่ค่ายเพลง ไผ่ร้อยกอ เดิมร้องเพลงอยู่กับ วงครูเชาว์โชว์ ( ครูเชาว์ เขาทะลุ ) ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เรื่อยมา อีกทั้งเคยได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ( พระนามเดิม ) รางวัลชนะเลิศจากการประกวดขับร้องบทเพลงไทยลูกทุ่ง เมื่อปี พ.ศ.2557  และ รางวัลชนะเลิศได้รับถ้วยจาก พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ในงานการประกวดขับร้องบทเพลงไทยลูกทุ่ง เมื่อปี พ.ศ.2558

 

หลังจากนั้นก็มีงานทัวร์คอนเสิร์ตกับโรงเรียนและวงครูเชาว์โชว์มาโดยตลอด  และเมื่อปี พ.ศ.2559 ฟ้าได้ COVER ผลงานเพลง “ร่มโพธิ์ทองของแผ่นดิน” ลง Facebook ส่วนตัวของฟ้าเอง กระทั่งได้มาร่วมเป็นศิลปินในสังกัดไผ่ร้อยกอ โดย พยัพ คำพันธุ์ ได้ประพันธ์เพลงให้ฟ้าด้วยกันหลายบทเพลง มีทั้งแนวเพลงลูกทุ่งและบทเพลงเพื่อชีวิต ฟ้าได้มีผลงานเพลงเป็นของตนเอง คือเพลง พ่อท่านคล้ายเทพเจ้าแห่งเมืองคอน /ตำนานเมืองคอน” / รอพี่หลบบ้าน / เด็กหลังเขา / ดอกกระโดน / คนใต้ใจเต็ม... และอีกหลายบทเพลง

 

นักร้องเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่หลายท่านยังได้มอบบทเพลงอมตะอันไพเราะ ให้ฟ้าได้มา Cower ไม่ว่าจะเป็น“หงา คาราวาน” มอบบทเพลง “คืนรัง” รวมทั้ง “แอ๊ด คาราบาว” มอบเพลง “ทะเลใจ” พร้อมทั้ง “สีเผือก คนด่านเกวียน” และ “เศก ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง”ก็ได้มอบบทเพลง “เด็กปั้ม”/ “สาวรำวง” ให้มา Cower เป็นเวอร์ชั่นของฟ้าเอง  ส่วน “ไข่ มาลีฮวนน่า”ได้มอบบทเพลง “หัวใจละเหี่ย” ให้ฟ้าได้มาขับร้อง

 

นอกจากนี้ “พยัพ คำพันธุ์” ยังได้ประพันธ์เพลงใหม่และเพลงเก่าที่ดังในอดีตมาให้ “ฟ้า ขวัญนคร” ได้บันทึกเสียง โดยแปลงเป็นฉบับของฟ้าเอง ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้มีการถ่ายทำ MV เพลง “เด็กปั้ม” ซึ่งได้นำเน็ตไอดอลที่กำลังมีกระแส อย่าง “สิตางค์ ส้มหยุด” มาประกบคู่กับตลกดัง “โรเบิร์ด สายควัน” มาร่วมสร้างสีสันให้สนุกครึกครื้น ซึ่งทำให้แพลตฟอร์ม Social Media “TikTok”ของเธอมีผู้ติดตามกว่า 7 ล้านคน

 

ติดตาม MV เพลง “เด็กปั้ม”ของศิลปินสาวเสียงดี “น้องฟ้า ขวัญนคร” ได้เร็วๆนี้ ที่ยูทูปช่อง ไผ่ร้อยกอโปรดักชั่น ..รับประกันคุณภาพโดย “พยัพ คำพันธุ์”ผู้บริหารแห่งค่าย “ไผ่ร้อยกอ” วางแพลนสื่อประชาสัมพันธ์ โดย 888 Media Entertainment ของสื่อสายเก๋า บก.ตุ่น อินเตอร์ ติดต่องานต่างๆได้ที่ 02-533-4444 หรือแฟนเพจไผ่ร้อยกอ และ เฟสบุ๊ค ฟ้า ขวัญนคร


วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ณัฐชญา คลินิก ดูดไขมัน ปลอดภัย ไม่หย่อนคล้อย ด้วย นวัตกรรม Bodytite plus endolaser

ในอดีตเครื่องมือที่ใช้ดูดไขมันมีหลากหลาย​ เพื่อให้สามารถดูดไขมันออกมาได้เป็นปริมาณมาก เทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อใช้ในการดูดไขมัน มักจะเน้นความกระชับของผิวหนังทำให้ผิวหนังหดตัว เพื่อไม่ให้เกิดความหย่อนคล้อยหลังจากการดูดไขมัน ส่วนในปัจจุบันการดูดไขมันก็สามารถทำได้ โดยใช้เพียงแค่รอยเจาะเล็ก ๆ ซ่อนในตำแหน่งที่เหมาะสมและใช้เครื่องมือสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังในระดับชั้นไขมัน เพื่อดูดไขมันออกมา ไขมันก็จะลดได้ตามต้องการ แต่ก็ยังมีคนสงสัยว่าการดูดไขมัน “อันตรายหรือไม่”

หมอบอส ทรงพจน์ ชัยมณี ศัลยแพทย์ ณัฐชญา คลินิก กล่าวว่า อันตรายจากการดูดไขมัน คือการบาดเจ็บของ อวัยวะที่สำคัญ​ เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท และอวัยวะภายใน​ อันตรายจากการดมยาสลบ มักเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาสลบ โดยที่ไม่มีวิสัญญีแพทย์ควบคุมทำให้คนไข้พิการ หรือเสียชีวิตได้​ จึงควรทำโดยแพทย์ที่ชำนาญการโดยตรง ส่วนที่ณัฐชญาคลินิก เรามีเครื่องมือดูดไขมันหลากหลาย เช่น เครื่องเลเซอร์สลายไขมันโดยใช้พลังงานเสียง​, เครื่อง ​PAL สลายไขมันด้วยการสั่น และเครื่อง Bodytite สลายไขมัน โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุ หรือ RF พร้อมทำให้ผิวหนังหดกระชับได้ในทันที เพราะหน้าที่หนึ่งของไขมัน คือดันให้ผิวหนังเต่งตึง หากเอาไขมันออกโดยที่ผิวหนังไม่หดกระชับ จะทำให้เกิดความหย่อนคล้อย เราจะใช้เครื่อง Bodytite ทำให้ผิวหนังหดกระชับเป็นหลัก และเน้นการดูดไขมันออกเป็นบริเวณกว้าง คล้ายกับการเหลาไม้ เพื่อให้ได้รูปร่างคนไข้ออกมาสวยทุกมุมมอง​  คุณหมอมีประสบการณ์มากว่า 9 ปี ดูแลคนไข้ในการดูดไขมันมาแล้วมากกว่า 1,000 ราย

 

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน​ ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ โดยสามารถดูได้จากผลงานที่เคยทำมา และควรเลือกใช้เครื่องมือดูดไขมันที่ทำให้ผิวหนังหดกระชับลดการเกิดความหย่อนคล้อย​ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานปลอดภัย หากใช้ยาดมสลบควรอยู่ในความดูแลของคุณหมอดมยาหรือวิสัญญีแพทย์ และควรไปปรึกษาคุณหมอที่ทำก่อนทำ​ เพื่อให้คุณหมอตรวจประเมินจะได้ทราบได้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นเช่นไร สมกับที่คนไข้คาดหวังหรือไม่ หมอบอสกล่าวเสริม

 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลการดูดไขมันอย่างละเอียดได้ที่​ Instagram : liposuction_thailand และ  https://liposuctionthailand.com/ และติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ที่ www.natchayaclinic.com , Facebook Page : NatchayaConsult


ชาวบ้านเกาะหลักร้อง ‘ผู้ว่าฯประจวบ’ ผวาขอทำเหมืองแร่ในเขตชุมชน...

  ชาวบ้านตำบลเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ ร้องผู้ว่าประจวบฯ หลังบริษัททำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ขอทำเหมืองแร่ในเขตพื้นที่ชุมชน ชาวบ้านเกรงได้รับค...